บทที่ 03: เวทมนตร์และพลังเวทย์
ฮิอิโระออกมากจากปราสาท สู่ถนน มีหลายสิ่งที่จะต้องทำ
(ตอนนี้ การรวบรวมข้อมูลคือสิ่งแรกที่จะต้องทำในเกมRPG)
เขาคิดจะถามราชาเหมือนกัน แต่ก็มีความเสี่ยงว่าเขาจะโดนลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง
และทำให้ออกจากประเทศไม่ได้ ถ้าเขาอยู่ที่นั่นต่อ
ดังนั้นเขาจึงออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ยังมีอีกสี่คนที่มีความสามารถมาก
เขาได้ข้อสรุปว่าเขาคงไม่จำเป็น
(อย่างแรกเลย <เวทอักษร>ที่อยู่ใน<สเตตัส>นี้มันเกี่ยวกับอะไร ฉันคาดว่ามันไม่น่าจะใช่คุณลักษณะเวทย์เฉพาะตัว)
ความรู้ของเขานั้นมาจากเกมส์และหนังสือ เขาจำได้ว่ากิลด์น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์และรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้
ราชาบอกเขาว่ามีกิลด์นักผจญภัยอยู่ในโลกนี้
ฮิอิโระตัดสินที่จะถามชาวบ้านถึงที่ตั้งของกิลด์ ดั้งนั้นเขาจึงได้รู้ว่ามันอยู่ไม่ไกลนัก
เขามุ่งหน้าไปที่นั้นเพื่อลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยทันที การเดินทางและการใช้ชีวิตนั้นไม่ฟรี
ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องใช้เงิน โดยเงินของโลกใบนี้จะถูกเก็บไว้ในการ์ดของกิลด์ และเมื่อจะใช้เงินก็จะชำระมันด้วยการ์ด นั้นคือสิ่งที่ชาวเมืองสอนเขา
เมื่อเขามาถึงกิลด์ ภายในค่อนข้างจะแออัด มีผู้ชายท่าทางแข็งแรงน่าจะเป็นนักผจญภัย มีเคาเตอร์เรียงรายกันอยู่ข้างหน้า
เคาเตอร์ใกล้ๆนั้นมีป้ายอยู่ข้างบนสำหรับเขียนแบบฟอร์มสมัคร
ในฐานะที่ผมสีดำและดวงตาสีดำของเขาผิดปกติ ฮิอิโระ กลายเป็นจุดสนใจในทันทีที่เขาเข้ามา ตามธรรมชาติ เครื่องแบบนักเรียนที่เขาสวมมาตั้งแต่ต้นนั้น
ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นคุ้นเคย เขาเตือนตัวเองให้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ในตอนหลัง
เขาเดินไปที่เคาเตอร์ โดยไม่สนใจต่อสายตาที่มองเขา
"ผมอยากลงทะเบียนเป็นนักผจญภัย"
เขาบอกอย่างห้วนๆ ผู้หญิงที่เคาเตอร์อธิบายพร้อมกับรอยยิ้มเพื่อธุรกิจ
เควสต่างๆจะถูกส่งมาที่กิลด์นักผจญภัย และนักผจญภัยจะได้รับรางวัลเมื่อทำเควสสำเร็จ
โดยเควสนั้นถูกแบ่งออกตามระดับความยากจาก F, E, D, C, B, A, S, SS จนถึง SSS
บัตรกิลด์นั้นจะถูกออกโดยกิลด์ และมันทำหน้าที่แบบเดียวกับบัตรประชาชนที่ประชาชนทุกคนมี ดังนั้นจึงมีรหัส
นักผจญภัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหมวดหมู่เช่นเดียวกับเควส แม้ว่าจะมีนักผจญภัยน้อยมากที่เป็นระดับ S หรือสูงกว่า
โดยเฉพาะระดับ SSS นั้นมีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นจาก 'เผ่ามนุษย์'
ผู้หญิงที่เคาเตอร์ให้บัตรสีขาวแก่เขา และบอกให้เขาหยดเลือดของเขาลงไป เขาเจ็บแปลบที่นิ้วจากการที่เขาเอาเข็มที่ได้รับมาจิ้ม หลังจากหยดเลือดลงบนบัตร
มันก็เริ่มกระจายตัวออกและหายไป
"หืมม? มันหายไปไหนแล้ว"
"โปรดท่องว่า <กิลด์การ์ด> ในใจคุณค่ะ "
เมื่อเขาทำตามที่บอก บัตรก็ปรากฏในมือของเขา แต่มันต่างจากอันเดิมที่เป็นสีขาวล้วน แต่ตอนนี้ มันมีกรอบสีฟ้า
"สีจะแสดงถึงอันดับของคุณ จากสีฟ้าที่ต่ำสุดไปสีม่วง สีเขียว สีเหลือง สีส้ม สีชมพู สีแดง สีเงิน สีทองและสีดำในที่สุด"
ฮิอิโระได้ฟังคำอธิบายและพยักหน้า มองไปยังการ์ดกิลด์ใหม่ของเขา เขาได้ยืนยันคำที่ปรากฏออกมาก
Name: ฮิอิโระ โอกามูระ
Sex: ชาย
Age: 17
From: ไม่ทราบ
Rank: F
Quest:
Equipment:
-Weapon:
-Guard:
-Accessory:
ริกิล: 0
Sex: ชาย
Age: 17
From: ไม่ทราบ
Rank: F
Quest:
Equipment:
-Weapon:
-Guard:
-Accessory:
ริกิล: 0
เขาดีใจที่ช่องที่ระบุว่าเขามาจากไหนระบุไม่ทราบ หากมันเขียนว่าเขามาจากโลกอื่น มันคงจะอธิบายคนอื่นลำบาก
เครื่องสวมใส่น่าจะหมายถึงอุปกรณ์ของเขา มันถูกแบ่งเป็น อาวุธ เกราะ และเครื่องประดับ แต่เขาสนใจที่จะถามเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งมาก
เครื่องสวมใส่น่าจะหมายถึงอุปกรณ์ของเขา มันถูกแบ่งเป็น อาวุธ เกราะ และเครื่องประดับ แต่เขาสนใจที่จะถามเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งมาก
"นี้ ริกิล ที่อยู่บนบัตรนี้คืออะไร...?"
"เอ๊ะ?นั้นคือสกุลเงินไงค่ะ...."
หญิงสาวเอียงคองงงวย ปกติแล้วผู้คนในโลกนี้จะรู้ว่า ริกิล เป็นสกุลเงิน แต่ก็เป็นธรรมดาที่ฮิอิโระจะไม่รู้เพราะเขาถูกเรียกมา
ในการสอบถามเพิ่มเติม เขาได้รู้ว่า ริกิล นั้นมีค่าเกือบเท่าเงินเยนของญี่ปุ่น
และในช่องที่หก เควส จะแสดงเควสที่เขาทำในปัจจุบัน
(ค่อนข้างมีประโยชน์)
แค่มีบัตรใบเดียวเขาก็ค้าขายและยืนยันตัวเองได้ นอกจากนี้บัตรจะอยู่ภายในตัวเขา และนำออกมาได้ตลอด
"ผมทำเควสได้ที่ไหน?"
"กรุณาเลือกจากบอร์ดตรงนั้นค่ะ แต่จำไว้ว่าคุณนั้นระดับ F คุณจะสามารถรับเควสได้มากกว่าระดับแค่ 1 ขั้น คือ E"
"เข้าใจแล้ว งั้นจะอัพระดับได้ยังไง?"
"เมื่อดำเนินเควสเสร็จสิ้นและถึงระดับที่ต้องการแล้วจะเปลี่ยนให้เองค่ะ"
"สั้นๆคือ หลังจากที่ผมทำเควสไปจำนวนหนึ่งแล้วมันจะเปลี่ยนจากสีฟ้าไปเป็น...เอ่อช่วยบอกอีกทีได้ไหม"
"สีม่วงค่ะ"
"แล้วมันจะเป็นสีม่วง ใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ"
ฮิอิโระรู้สึกตกใจในความสะดวกของบัตร
"ดีสุดๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา"
พูดแล้วเขาก็มุ่งหน้าไปยังกระดานข่าว
ซ่อมหลังคาโบส F
ช่วยซ่อมหลังคาของโบสAmaruq ต้องการประสบการณ์
รางวัล:10000 ริกิล
ช่วยซ่อมหลังคาของโบสAmaruq ต้องการประสบการณ์
รางวัล:10000 ริกิล
เก็บสมุนไพรโชดดี F
รวบรวมสมุนไพรโชดดีในที่ราบสูง แอชบิต
รางวัล: 300 ริกิลต่อมัด
รวบรวมสมุนไพรโชดดีในที่ราบสูง แอชบิต
รางวัล: 300 ริกิลต่อมัด
ล่าก็อบลิน E
ฆ่าก็อบลิน 10 ตัวในป่า แคลร์
รางวัล:35000ริกิล
ฆ่าก็อบลิน 10 ตัวในป่า แคลร์
รางวัล:35000ริกิล
มีเควสอื่นๆอีก แต่เขาเลือก "เก็บสมุนไพรโชดดี" โดยไม่ลังเล เขาไม่สบายใจที่จะไปล่าอะไรตั้งแต่เลเวลหนึ่ง แม้ว่าเขาน่าล่าก็อบลินได้ตั้งแต่เริ่ม
แต่เขาจัดสินใจที่จะไปทำเควสล่าก็ต่อเมื่อได้เลเวลอีกสักนิดเพื่อใช้ในการต่อสู้
"เข้าใจแล้วค่ะ แต่โปรดระวัง หากคุณยกเลิกภารกิจกลางทาง คุณจะโดนปรับเป็นเงิน 10000 ริกิล"
เขารับเควสโดยนำใบประกาศไปที่เคาเตอร์ เนื่องจากมีค่าปรับ เขาจึงต้องหลีกเลี่ยงการยกเลิกเควสทุกทาง ตอนนี้เขาไม่มีเงินติดตัวสักนิด
อย่างแรกเขาได้ถามถึงที่อยู่ของ "ที่ราบสูงแอสบิต" โชดดีสำหรับเขาที่มันอยู่นอกดินแดนนี้ และเขาได้แสดงให้เห็นภาพของ "สมุนไพรโชดดี"จากหนังสือที่ดูเหมือนหนังสืออ้างอิง(ฉันอยากอ่านหนังสืออ้างอิงนั้น)
ในฐานะที่เขารักหนังสือ ฮิอิโระรู้สึกกระหายต่อความรู้ที่จะตื่นขึ้นมา เขาคิดอย่างจริงจังที่จะขังตัวเองอยู่ในห้องสมุดหลังจากที่เขาเก็บเงินได้พอ
หลังจากที่ได้เห็นภาพของแผนที่ เขาได้รับกระเป๋าใบใหญ่และออกจากกิลด์ การเป๋ามีความหมายสำหรับการใช้เก็บเกี่ยวของเขา
และแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขามีพลังเวทตร์สูงแต่มันก็ใช้การไม่ได้เมื่อเขาไม่รู้วิธีใช้งาน เขาต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการใช้เวทมนตร์โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่เคาเตอร์ เวทมนตร์เป็นอะไรที่ไม่ผิดปกติในโลกนี้ ทุกคนสามารถใช้ได้และมีพลังเวทไม่มากก็น้อย
พูดไป มีผู้คนอยู่รอบๆเขา ฮิอิโระหยุดและมองไปทางขวามือของเขา มีคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีลูกแก้วคริสตัลบนโต๊ะอยู่ด้านหน้า
(...หมอดูหรอ?)
คนนั้นสวมเสื้อคลุมสีดำและมีหมวกปิดหน้า แต่ดูเหมือนจะเป็นหมอดูแน่ๆ
"โอ้? เธอรู้สึกอย่างไรกับสิ่งนั้นหรอ เธอเอ๋ย"
จากเสียงเขาสรุปว่าน่าจะเป็นหญิงชรา
"ผมไม่มีเงินหรอก"
"โอ้ อย่างนั้นหรอ แต่เธอเหมือนจะอยากถามอะไรอยู่นี้"
"..."
"เธอคงไม่ใช่คนที่นี้สินะ ข้าไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย"
"บอกจุดประสงค์ของคุณมาเถอะ?"
เขามองไปที่เธอที่น่าสงสัยเล็กน้อย
"ฟุฮี่ฮี่ อย่ามองหน้ากลัวแบบนั้นสิ ข้าจะบอกเกี่ยวกับดวงชะตาของเธอให้สักเล็กน้อยเพื่อเป็นที่ระลึกในการมาที่นี้เอาไหม?"
"ไม่เอาอ่ะ"
"ฟูฮี่ฮี่ อย่าพูดแบบนั้นสิ นั่งลงเถอะ"
เพราะจริงๆแล้วเขาไม่ได้รีบนัก เขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้ในด้านหน้าของโต๊ะตามที่เขาบอก
"ฟูฮี่ฮี่ งั้นข้าจะเริ่มล่ะนะ"
เธอเอามือของเธอวางลงบนลูกแก้วคริสตัล ฮิอิโระ กอดอกดูเธออย่างเงียบๆ และทันใดนั้นดวงตาของเธอก็อ่านได้ยาก
"...โอ้ เธอช่างมีดวงชะตาที่แปลกประหลาดนัก"
"แปลก?"
"ฟุฮี่ฮี่ ทุกคนต่างมีดวงดาวในใจของเขา แต่ละคนมีร่างกายของตัวเอง สี ขนาดและความกระจ่างใส การทำนายของข้าจะทำให้พวกเขาได้เห็น และในขณะที่ข้าได้เห็นหลายๆอย่างจนถึงตอนนี้ ข้าไม่เคยเห็นใครมีดวงดาวเช่นเดียวกับท่านมาก่อน"
"อืม.."
"มีรูปร่างกลมและสภาพแวดล้อมสีน้ำเงินเข้ม ฉันเห็นแล้ว...ประเทศของคุณ คุณไม่ได้มากจากโลกนี้ใช่ไหม?"
เขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ในทันที หมอดูคนนี้รู้ได้ยังไง? ฮิอิโระรู้สึกสงสัย
(สามารถบอกโชคชะตาได้งั้นหรอ ไม่สิ อาจจะเป็น...เวทมนตร์งั้นหรอ?)
คิดเช่นนั้น เขาก็จ้องไปที่เธอด้วยสายตาคมกริบ เขาไม่สนใจที่เธอรู้ แต่เขาก็ระมัดระวังในสิ่งที่ตามมา
"...นั่งลงเถอะ ข้าไม่แพร่กระจายไปหรอก และถึงแม้ผู้คนที่มาจากโลกอื่นจะหาได้ยาก แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าได้พบ"
"...ท่านเคยพบมาก่อนหรอ?"
"ใช่ เพียงครั้งเดียวเมื่อข้ายังเด็ก คนผู้นั้นก็มีดวงดาวแปลกๆเช่นกัน"
"...งั้นหรอ แล้ว คุณจะทำยังไง?"
"ฟุฮี่ฮี่ฮี่ ไม่มี ท่านมีปีกแห่งอิสรเสรีแล้ว ปีกเหล่านี้จะเติบใหญ่และอบอุ่นไปทุกด้าน"
เขาไม่ได้รับฟังสิ่งที่เธอพูด แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สิ่งไม่ดี
"หลายๆอย่างมีแนวโน้มจะเข้ามารวมกันที่แสงอันเกิดจากปีกและติดตามท่าน"
"ชิ นั้นล่ะที่ไม่ดี ผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่า"
"ฟุฮี่ฮี่ เอาเถอะ แต่มันเป็นเรื่องหนึ่งในอนาคต ในการฟังครั้งนี้ อนาคตนี้ของเธอจะมีโอกาสมากขึ้น นั้นคือทั้งหมด "
"อืมม...ผมไม่เอาหรอก ผมจะทำในสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้น"
"ฟุฮี่ฮี่ ทำเช่นนั้นเถอะ แล้วมีอะไรที่เธอต้องการจะถามหรือไม่?"
"ใช่ อย่างที่ท่านพูด ผมมาจากอีกโลกหนึ่ง โลกนั้นไม่มีเวทมนตร์ ผมไม่เข้าใจเวทมนตร์ของที่นี้และผมไม่รู้วิธีใช้งาน ผมอยากจะเรียนรู้มันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้..."
"โอ้ ข้าเข้าใจ โลกที่ปราศจากเวทมนตร์ น่าสนใจ"
ทันใดนั้น ฮิอิโระ ตระหนักและมองไปที่หญิงชราอีกครั้ง
"นี่ ท่านสอนผมใช้เวทได้ไหม"
"ได้สิฟุฮิฮิ"
เขาคิดว่าเธอจะมองเขาแย่ลง แต่เห็นได้ชัดว่าเธอยอมรับมัน
"ท่านรู้ไหมว่าพลังเวทมาจากไหน"
"ไม่"
นั้นเป็นเหตุผลที่เขาถาม และเธอก็อึดอัดใจที่จะบอก
"บางทีคงเป็นหัวใจหรือไม่ก็สมองสินะ?"
"ไม่ ไม่ พลังเวทนั้นมาจากเลือด"
"เลือดงั้นหรอ?"
"ใช่แล้ว สิ่งมีชิตทุกชนิดต่างก็มีเลือด นั้นคือแหล่งที่มาของพลังเวท"
"โอ้!"
"นั้นคือเหตุผลที่ท่านควรจะมุ่งความสนใจไปที่การไหลเวียนของเลือดในตัว เมื่อต้องการรวมพลังเวทของท่าน"
"การไหลเวียนของเลือด?"
"ใช่แล้ว ลองมองดูใกล้ๆ"
พูดเช่นนั้นแล้ว หญิงชราก็แสดงมือเธอให้เขาดู มีบางอย่างเหมือนควันสีฟ้าออกมาจากฝ่ามือของเธอ มันค่อยๆรวมรูปร่างจนมันเป็นทรงกลมอยู่ในมือของเธอ
"นั้นคือพลังเวท"
"โว้ว แล้วคุณมองเห็นมันได้หรอ?"
"ก็นะ มันน่าจะใช้เวลามากในการฝึกจนให้ทำมองเห็นได้เช่นนี้ ฉันต้องจดจ่อไปที่การไหลเวียนและจินตนาการว่ามันมารวมกันอยู่ในมือของฉัน"
"จินตนาการ ใช่เวทมนตร์เป็นอำนาจที่มาจากการจินตนาการ และพลังจากการไหลเวียน ตอนนี้พลังเวทมนตร์กำลังไหลเวียนอยู่ในทรงกลมนี้เหมือนเลือด"
"ฟังดูซับซ้อนนิดหน่อย แต่ผมเข้าใจส่วนสำคัญๆแล้ว จะพูดว่า การไหลเวียนของเลือด = พลังเวทย์ ก็ไม่ผิดใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว"
"และเมื่อใช้พลังเวท แค่ฉันจินตนาการการไหลเวียนของเลือดในร่างกายทั้งหมดของผม ไปตามที่...."
ในขณะที่พูดเช่นนั้น เขาจินตนาการการไหลเวียนของเลือดของเขาไปที่นิ้วชี้ของเขา แล้วที่ปลายนิ้วเขาก็ส่องแสงอ่อนๆและอบอุ่นนิดๆ
"แล้วคุณก็ทำอะไรแบบนี้สินะ เข้าใจแล้ว นี่คือเวทมนตร์สินะ"
หญิงชราต่อหน้าเขาอ้าปากค้างและกว้างจนน่าตกใจ
"โอ้ น่าตกใจอะไรเช่นนี้ ท่านบอกว่านี้เป็นครั้งแรกที่ใช้เวทมนตร์ใช่ไหม?"
"อืม?ใช่"
"แต่ท่านสามารถควบคุมมันได้แล้ว ท่านต้องมีพลังจินตนาการอย่างไม่น่าเชื่อ "
"ก็นะ ผมเป็นหนอนหนังสือ ผมมีความมั่นใจในการจินตนาการของฉัน"
หนังสือมีแต่ตัวหนังสือและต้องมีจินตนาการถึงสิ่งที่เขียนในหัว
จะมองเห็นภาพ สถานที่ บุคคล และการกระทำในใจจากเรื่องเล่า จินตนาการจึงจำเป็น
ฮิอิโระได้ฝังตัวเองอยู่ในหนังสือตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเขาจึงฝึกการจินตนาการมาอย่างดี
มันเป็นจุดแข็งของเขา เขามั่นใจในสิ่งนั้น เมื่อเขาหยุดจินตนาการ แสงและความอบอุ่นก็หายไปจากปลายนิ้วของเขา
"ขอบคุณ ตอนนี้ผมได้รู้ถึงพลังเวทแล้ว"
"ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ"
"อีกอย่างหนึ่ง ฉันเพียงแค่ร่ายมนตร์ในตอนที่ฉันมุ่งเน้นไปที่การไหลเวียนของพลังเวทแบบนี้ตอนที่ฉันต้องการใช่เวทมนตร์ใช่มั้ย?"
"ใกล้เคียงทีเดียว ดูนะ <ไฟบอล>"
หญิงชรายกนิ้วชี้ขึ้นและร่ายมนตร์ ลูกบอลไฟขนาดเท่าลูกเทนนิสก็ปรากฏ
"โอ้"
ฮิอิโระ ส่งเสียงตื่นเต้น ความสนใจของเขาในเวทมนตร์ ถูกกระตุ้นที่จะใช้มันเป็นครั้งแรก
"ข้าทำขนาดเล็กในตอนนี้ แต่ก็สามารถกลายเป็นขนาดใหญ่ได้ ขึ้นอยู่กับจินตนาการและพลังเวทของท่าน"
"เข้าใจแล้ว แต่ผมคิดว่าคงจะใช้<ไฟบอล>ไม่ได้"
"หืม?เวทย์เฉพาะตัวของเธอแตกต่างไปหรอ?"
"ใช่ มันไม่ใช่เวทย์เฉพาะตัวแบบนั้น"
"...มันหายากมากตอนนี้ ผู้ที่ไม่มีเวทย์เฉพาะตัวเป็นธาตุ จะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ที่ไม่เหมือนใครและไม่ล้มเหลว ท่านอาจจะเป็นเช่นนั้น..."
"รอเดียวสิ ไม่เหมือนคนอื่น? คุณหมายถึงเวทมนตร์พิเศษเฉพาะตัวงั้นหรอ?"
"ใช่แล้ว"
ตามที่ดู หญิงชรามีคุณลักษณะของเวทมนตร์ แปดอย่าง:ไฟ น้ำ ลม สายฟ้า น้ำแข็ง แสงสว่าง และความมืด ไม่มีคุณลักษณะ มีความหมายว่ามีคุณลักษณะเหล่านั้น
พูดอีกอย่าง ไม่มีคุณลักษณะจะไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ของคุณลักษณะอื่นๆได้
ในการแลกเปลี่ยนนั้นจะมีเวทมนตร์หนึ่งอย่างที่ใช้ได้ด้วยตัวเอง ที่เรียกว่าเป็นเวทมนตร์เฉพาะตัว
พูดอีกอย่าง ไม่มีคุณลักษณะจะไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ของคุณลักษณะอื่นๆได้
ในการแลกเปลี่ยนนั้นจะมีเวทมนตร์หนึ่งอย่างที่ใช้ได้ด้วยตัวเอง ที่เรียกว่าเป็นเวทมนตร์เฉพาะตัว
"อย่างไรก็ตาม เวทมนตร์เฉพาะตัวมีค่ามากในโลกนี้ อันที่จริงแล้ว มีจำนวนไม่มากนักที่ควบคุมมันได้"
"คุณหมายถึงอะไร?"
"เวทมนตร์ที่ไม่ซ้ำใครนั้นมีประสิทธิภาพเมากและข้าได้ยินว่ามันยากที่จะควบคุม และคนส่วนใหญ่ก็ตายจากการ<สะท้อน>ของการระเบิดพลังเวท"
ฮิอิโระไม่เคยคิดว่าเวทมนตร์เฉพาะตัวนั้นจะอันตราย
"การควบคุมเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นผมต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น"
"เรียนรู้"
"ใช่ เพราะสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการ <สะท้อน> อาจเพราะเขาไม่เข้าใจในเวทมนตร์ของตัวเองจริง ความรู้เกี่ยวกับพลังเวทของเวทมนตร์และของตัวเอง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องเข้าใจเป็นอย่างแรกในการใช้เวทมนตร์ "
"เข้าใจแล้ว ขอบคุณที่บอกข้าให้ทราบ"
"ผมพอใจแล้ว มันก็สนุกดีตั้งแต่เจอท่านน่ะ"
เขายังคงมองไม่เห็นใบหน้าของหญิงชรา แต่เธอต้องยิ้มอยู่ขณะที่เธอเอ๋ยเสียง
"ข้าอยู่ที่นี้เสมอ แวะมาหาได้หากต้องการบางสิ่งบางอย่าง แต่สำหรับครั้งหน้าข้าจะคิดค่าบริการแน่นอน"
"ฉลาดดีนี่"
แล้วเขาก็แยกทางกับหญิงชราและมุ่งหน้าออกไปยังประตูเมือง